สับปะรด pineapple เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง ที่มีต้นกำเนิด มาจากบริเวณ ทวีปอเมริกาใต้ ลำต้นมีขนาดสูงประมาณ 80-100 เซนติเมตร การปลูกสามารถปลูกได้ง่าย โดยการฝังกลบหน่อ หรือส่วนยอดของผลที่เรียกว่า จุก เปลือกของผลสับปะรด ภายนอกมีลักษณะคล้ายตาล้อมรอบผล
เป็นผลไม้เขตร้อนที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นอันดับสามของโลก โดยรัฐฮาวายเป็นแหล่งเพาะปลูกสับปะรดที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา และในปี ค.ศ. 2016 คอสตาริกา, บราซิล และฟิลิปปินส์มีสัดส่วนการผลิตสับปะรดเกือบ 1 ใน 3 ของโลก
แต่ละท้องถิ่นเรียก สับปะรด แตกต่างกันออกไป
- ภาคกลาง เรียกว่า “สับปะรด”
- ภาคอีสาน เรียกว่า “บักนัด” (“หมากนัด”)
- ภาคเหนือ เรียกว่า “มะนัด, มะขะนัด, บ่อนัด”
- ภาคใต้ เรียกว่า “ย่านัด, หย่านัด, ย่านนัด, ขนุนทอง, มะลิ”
ลักษณะของ สับปะรด
รูปลักษณะ ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 90-100 ซม. มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ใบเดี่ยวเรียงสลับ ซ้อนกันถี่มากรอบต้น กว้าง 6.5 ซม. ยาวได้ถึง 1 เมตร ไม่มีก้านใบ ดอกช่อออกจากกลางต้น มีดอกย่อยจำนวนมาก ผลเป็นผลรวม รูปทรงกระบอก มีใบเป็นกระจุกที่ปลาย
สับปะรดเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เมื่อเจริญเป็นผลแล้วจะเจริญต่อไปโดยตาที่ลำต้นจะเติบโตเป็นต้นใหม่ได้อีก และสามารถดัดแปลงเป็นไม้ประดับได้อีกด้วย
สับปะรดแบ่งออกตามลักษณะความเป็นอยู่ได้ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือพวกที่มีระบบรากหาอาหารอยู่ในดิน หรือเรียกว่าไม้ดิน, พวกอาศัยอยู่ตามคาคบไม้หรือลำต้นไม้ใหญ่ ได้แก่ ไม้อากาศต่าง ๆ ที่ไม่แย่งอาหารจากต้นไม้ที่มันเกาะอาศัยอยู่ พวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ประดับ, และพวกที่เจริญเติบโตบนผาหินหรือโขดหิน

ส่วนสับปะรดที่เราใช้บริโภคจัดเป็นไม้ดิน แต่ยังมีลักษณะบางประการของไม้อากาศเอาไว้ คือ สามารถเก็บน้ำไว้ตามซอกใบได้เล็กน้อยมีเซลล์พิเศษสำหรับเก็บน้ำเอาไว้ในใบ ทำให้ทนทานในช่วงแล้งได้ด้วย
ฤดูกาลของสับปะรด
- ช่วงเก็บเกี่ยวในฤดู ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – มกราคม และกลางเดือนเมษายน – กรกฎาคม สับปะรดจะให้ผลผลิตมาก ในตลาดมีราคาถูก
- ช่วงเก็บเกี่ยวนอกฤดู ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ – ต้นเดือนเมษายน และเดือนสิงหาคม – ตุลาคม สับปะรดจะให้ผลผลิตน้อยจึงราคาแพง
พันธุ์สับปะรดที่นิยมปลูกในประเทศไทย
- พันธุ์ปัตตาเวีย หรือเรียกว่า สับปะรดศรีราชา นิยมปลูกทั่วไป ผลใหญ่ ฉ่ำน้ำ เนื้อสีเหลืองอ่อน
- พันธุ์อินทรชิต เป็นสับปะรดพันธุ์พื้นเมือง
- พันธุ์ขาว/ดำ
- พันธุ์ภูเก็ต หรือ พันธุ์สวี นิยมปลูกทางภาคใต้ ใบมีแถบสีแดงที่ตอนกลางใบ กลีบดอกสีม่วงอ่อน ผลเล็กเปลือกหนาเนื้อสีเหลืองเข้ม หวานกรอบ
- พันธุ์นางแล หรือ พันธุ์น้ำผึ้ง นิยมปลูกในจังหวัดเชียงราย ผลกลม ตานูน เปลือกบาง เนื้อสีเหลืองเข้ม รสหวานจัด
- พันธุ์ตราดสีทอง
- พันธุ์ภูแล
- พันธุ์ห้วยมุ่น
- พันธุ์เพชรบุรี ผลย่อยติดกันไม่แน่น แกะออกมารับประทานได้โดยไม่ต้องปอกเปลือก แกนผลรับประทานได้ รสหวานอมเปรี้ยว
สรรพคุณของสับปะรด
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง
- ช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยบรรเทาและรักษาอาการหวัดได้
- ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีมากขึ้น
- ช่วยให้สุขภาพในช่องปากแข็งแรง ป้องกันไม่ให้เกิดโรคเหงือก
- ช่วยบรรเทาอาการร้อน กระสับกระส่าย หิวน้ำ
- ช่วยแก้อาการท้องผูก ขับถ่ายไม่สะดวก
- ช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีน
- ช่วยลดเสมหะในลำคอได้
- ช่วยในการขับปัสสาวะ ปัสสาวะไม่ออก
- ช่วยรักษาโรคนิ่ว
- ช่วยรักษาโรคไตอักเสบ
- ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ
- ช่วยบรรเทาอาการของโรคบิด
- เชื่อว่าช่วยรักษาและบรรเทาอาการของโรคนิ้วล็อก (Trigger finger)
- ช่วยรักษาอาการบวมน้ำ
- ช่วยรักษาอาการแผลเป็นหนอง
- ช่วยแก้ปัญหาส้นเท้าแตก
- ช่วยลดการอักเสบจากบาดแผล
- เป็นยารักษาโรคผิวหนัง
- ใบสด นำมาใช้เป็นยาถ่ายหรือยาฆ่าพยาธิได้
- ผลดิบสามารถนำมาใช้ห้ามเลือดได้
- ผลดิบสับปะรดช่วยขับประจําเดือน
- ส่วนของรากสับปะรดนำมาใช้เป็นยาแก้กระษัย บำรุงไตได้
- หนามของสับปะรดช่วยแก้พิษฝีต่าง ๆ ได้
ประโยชน์ของสับปะรด
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและความแก่ชรา
- สับปะรดเป็นผลไม้ที่เมื่อรับประทานแล้วจะรู้สึกสบายท้อง ไม่รู้สึกอึดอัด
- ใช้นำมารับประทานเป็นผลไม้ หรือนำมาปรุงเป็นอาหาร เช่น แกงสับปะรด เป็นต้น
- นำมาใช้แปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง ทำเป็นสับปะรดกวนก็ได้
- การแปรรูปสับปะรดอื่น ๆ เช่น การทําไวน์สับปะรด แยมสับปะรด เป็นต้น
- คุณค่าทางโภชนาการของสับปะรดต่อ 100 กรัม
- พลังงาน 50 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 13.12 กรัม
- น้ำตาล 9.85 กรัม
- เส้นใย 1.4 กรัม
- รูปสับปะรดไขมัน 0.12 กรัม
- โปรตีน 0.54 กรัม
- วิตามินบี 1 0.079 มิลลิกรัม 7%
- วิตามินบี 2 0.032 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี 3 0.5 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี 5 0.213 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินบี 6 0.112 มิลลิกรัม 9%
- วิตามินบี 9 18 ไมโครกรัม 5%
- โคลีน 5.5 มิลลิกรัม 1%
- วิตามินซี 47.8 มิลลิกรัม 58%
- ธาตุแคลเซียม 13 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุเหล็ก 0.29 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุแมงกานีส 0.927 มิลลิกรัม 44%
- ธาตุฟอสฟอรัส 8 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุโพแทสเซียม 109 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม 0%
- ธาตุสังกะสี 0.12 มิลลิกรัม 1%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่
การรับประทานสับปะรดแนะนำให้ทานสด ๆ ไม่ผ่านกระบวนการประกอบอาหารหรือผ่านความร้อนเพื่อป้องกันการสูญเสียวิตามิน โดยสับปะรดที่เริ่มนิ่มแล้วและมีน้ำเหนียว ๆ ไหลออกมา แสดงว่าเริ่มเน่าหรือสุกมากจนเกินไป จึงไม่ควรรับประทาน
อัพเดตข่าวสารเกี่ยวกับ สุขภาพและการออกกำลังกาย ได้ที่นี้ก่อนใคร
หาเงินออนไลน์ได้ง่ายๆ แค่คลิก : PG SLOT
สุขภาพและการออกกำลังกาย